การติดตั้งระบบ Heat Pump ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดและช่วยลดค่าไฟฟ้า ระบบ Heat Pump จำเป็นต้องมีการวางแผนที่ละเอียดและรอบคอบตั้งแต่การเลือกอุปกรณ์ การออกแบบระบบ ไปจนถึงการติดตั้งที่ถูกต้องตามหลักวิศวกรรมและการใช้งานจริง โดยเริ่มจากการเลือกขนาดของ ระบบ Heat Pump ให้เหมาะสมกับพื้นที่และปริมาณความร้อนที่ต้องการ หากเลือกขนาดที่เล็กเกินไป เครื่องจะทำงานหนักเกินไป ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานและมีอายุการใช้งานสั้น
ระบบ Heat Pump ในทางกลับกันหากเลือกขนาดใหญ่เกินไปจะทำให้เกิดการสตาร์ทและหยุดบ่อยครั้ง ส่งผลให้ประสิทธิภาพลดลง ดังนั้นการทำการคำนวณโหลดความร้อนหรือความเย็นอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เมื่อได้ขนาดที่เหมาะสมแล้ว ขั้นตอนถัดมาคือการติดตั้งอุปกรณ์ในตำแหน่งที่เหมาะสม ควรเลือกบริเวณที่มีการระบายอากาศได้ดี ระบบ Heat Pump ไม่มีสิ่งกีดขวาง และห่างจากแหล่งความร้อนสูง เพราะหากติดตั้งในตำแหน่งที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก
Heat Pump เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการลดการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น
จะทำให้ ระบบ Heat Pump ทำงานหนักมากขึ้น ส่งผลให้กินไฟมากกว่าเดิมนอกจากนี้ ท่อส่งน้ำร้อนและน้ำเย็นควรมีการหุ้มฉนวนอย่างดีเพื่อลดการสูญเสียความร้อนระหว่างทาง ระบบ Heat Pump และการใช้วัสดุฉนวนที่มีคุณภาพสูงสามารถช่วยรักษาอุณหภูมิและประหยัดพลังงานได้อย่างมาก อีกปัจจัยสำคัญคือการปรับตั้งค่าควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสม ไม่ควรตั้งอุณหภูมิสูงเกินความจำเป็น เพราะจะทำให้เครื่องทำงานนานขึ้นและใช้ไฟมากขึ้น ควรตั้งอุณหภูมิให้อยู่ในช่วงที่เพียงพอต่อความต้องการใช้งาน ระบบ Heat Pump ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการตั้งอุณหภูมิไม่เกิน 50-55 องศาเซลเซียส
ก็เพียงพอสำหรับงานส่วนใหญ่การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้ระบบ Heat Pump ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ควรทำความสะอาดคอยล์ทั้งด้านระบายความร้อนและด้านดูดความร้อนอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง เพื่อลดการสะสมของฝุ่นและคราบสกปรกที่อาจทำให้ประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนความร้อนลดลง รวมถึงการตรวจสอบแรงดันของสารทำความเย็นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพราะหากแรงดันต่ำเกินไปหรือน้ำยารั่วระบบ Heat Pump จะทำให้เครื่องทำงานหนักและกินไฟมากขึ้น นอกจากนี้ควรตรวจสอบปั๊มน้ำและระบบท่อให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ไม่มีการรั่วซึมหรือการอุดตัน
ระบบ Heat Pump เป็นไปตามหลักการช่วยให้ระบบทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
อีกเคล็ดลับในการประหยัดไฟคือการใช้ Heat Pump ควบคู่กับระบบควบคุมอัจฉริยะ เช่น การตั้งเวลาเปิดปิดอัตโนมัติหรือการเชื่อมต่อกับระบบควบคุมอุณหภูมิภายในอาคาร เพื่อให้เครื่องทำงานเฉพาะช่วงเวลาที่จำเป็นและป้องกันการทำงานโดยไม่จำเป็น หากเป็นไปได้ควรเลือกติดตั้งระบบ Heat Pump ที่มีเทคโนโลยี Inverter เพราะสามารถปรับรอบการทำงานให้เหมาะสมตามโหลดที่ใช้งานจริง ทำให้กินไฟน้อยกว่าแบบคอมเพรสเซอร์ธรรมดา
ที่ต้องสตาร์ทและหยุดตลอดเวลาการใช้พลังงานหมุนเวียนมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ ระบบ Heat Pump ก็เป็นอีกแนวทางที่ควรพิจารณา เช่น การใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อป้อนพลังงานให้กับระบบ ซึ่งจะช่วยลดค่าไฟฟ้าได้อย่างมากในระยะยาว และสุดท้ายควรเลือกซื้อ ระบบ Heat Pump ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานประสิทธิภาพพลังงาน เช่น ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์มีคุณภาพและช่วยลดค่าไฟจริงตามที่ระบุ เพิ่มเติม https://heatthailand.com/
